ในคราวที่แล้วผมได้เล่าเกี่ยวกับการออกแบบให้เป็นบ้านประหยัดพลังงานกันไปแล้วนะครับ ซึ่งจะเน้นกันตั้งแต่การออกแบบ การเลือกวัสดุก่อนเริ่มลงมือสร้างกันเลยทีเดียว แต่ทว่าที่เล่าไปนั้น เรายังก็มีอีกมากมายหลากหลายวิธีในการทำให้บ้านสวยๆของเรากลายเป็นบ้านประหยัดพลังงานครับ ซึ่งเรามาดูกันต่อดีกว่าครับ
ลดความร้อน จากหน้าต่าง
หน้าต่างในบ้านนั้น ถ้าเราออกแบบทิศของบ้านให้หันถูกทิศแล้วล่ะก็ แค่การเปิดหน้าต่างก็จะทำให้ลมพัดเข้าบ้านและทำให้บ้านเย็นได้ แต่ว่าในหลายๆห้อง เช่น ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่น ที่เรามักจะเปิดแอร์ในตอนกลางวันแล้ว บริเวณหน้าต่างนั้นจะทำให้ความร้อนจากแสงแดดเข้ามาในห้องได้เยอะเกินไป จนส่งผลให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น ดังนั้นเราควรที่จะติดฟิล์มกรองแสง หรือม่าน เพื่อช่วยลดความร้อนจากบริเวณหน้าต่างครับ
ปลูกหญ้า หรือทำสวนสวยรอบๆบ้าน
ในบทความคราวที่แล้ว ผมได้เล่าให้ฟังถึงการออกแบบให้ลดความร้อนที่บริเวณหลังคา และผนังบ้านกันไปแล้ว แต่ทีนี้ความร้อนจากแสงแดดน่ะ ยังสามารถมาจากการสะท้อนพื้นรอบตัวบ้านได้อีกด้วยครับ ดังนั้นถ้าคุณปูพื้นรอบๆบ้านเป็นกระเบื้องทั้งหมด จะทำแสงแดดสามารถสะท้อนขึ้นมากระทบบ้านได้อีก จะทำให้ตัวบ้านร้อนขึ้นอย่างรู้สึกได้ชัดเจนครับ
การที่เราทำสวนสวย หรือปลูกหญ้ารอบๆบ้านนั้นจะช่วยลดการสะท้อนของแสงแดดมากระทบตัวบ้าน และต้นไม้เหล่านี้ก็ยังคลายน้ำในตอนกลางวัน เพื่อช่วยลดความร้อนอีกด้วยครับ นอกจากนี้ต้นไม้รอบบ้าน ยังมีประโยชน์ในการช่วยลดฝุ่นอีกด้วย แถมยังทำให้บ้านของเรานั้น สวยขึ้นอีกเยอะเลยครับ
ตั้ง Compressor Air ให้ถูกที่
Compressor Air หรือ คอยล์ร้อนแอร์ นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ไว้ระบายความร้อนที่ดูดมาจากในห้องครับ ดังนั้นแค่เราไปติดตั้งให้ถูกที่ หรือออกแบบให้คอยล์ร้อนแอร์ มีที่ติดตั้งที่ถูกต้องแล้ว เพียงแค่นี้ก็จะช่วยลดความไฟได้แล้วครับ นั่นก็คือ ไม่ติดตั้งให้คอยล์ร้อนแอร์โดนแดดเต็มๆ ซึ่งอันนี้ช่างแอร์หลายๆคน ไม่สนใจเลย เพราะว่าที่บ้านผมนั้นเคยติดตั้งคอยล์ร้อนแอร์ที่ระเบียงในทิศตะวันตก ซึ่งร้อนมากกกกกกก ทำให้แอร์ในห้องเย็นช้ามากๆในตอนบ่ายครับ ทำให้เรียกช่างแอร์อีกคนมาช่วยซ่อม แต่ช่างเขาก็บอกแค่ว่าแอร์ทำงานเป็นปกติอยู่แล้ว ที่ต้องแก้ไขคือ คอยล์ร้อนแอร์น่ะ ตั้งรับแดดเต็มๆเลย วิธีการแก้ไขก็ง่ายมากครับ แต่ทำหลังคาให้คอยล์ร้อนแอร์ ผมทำแบบบ้านๆเลยครับ คือทำจากแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด ฮ่าๆๆๆๆ แค่นี้เอง แอร์ก็เย็นขึ้นแล้วครับ
ถ้าเพื่อนๆยังไม่ได้ติดตั้งแอร์ ก็ลองดูที่ที่จะตั้งคอยล์ร้อนด้วยนะครับ โดยตั้งในจุดไม่โดนแดดเต็มๆ
ลดภาระการทำงานของแอร์
ในเมืองไทยที่มีอากาศเย็นมากๆแบบนี้แล้ว (ประชด!!!) ตอนแรกๆผมก็คิดว่า แอร์จะทำงานเพื่อลดความร้อนแล้วอย่างเดียว แต่ผมเข้าใจผิดอย่างแรงครับ เพราะว่าในเมืองไทยแล้ว แอร์โดยส่วนมากจะทำงานแค่ 30% เพื่อลดความร้อน แต่อีก 70% จะทำงานเพื่อลดความชื่นครับ ซึ่งหมายความว่า ถ้าห้องที่เปิดแอร์มีความชื้นเยอะ แอร์ก็จะทำงานหนักขึ้นไปอีก เช่น ตากผ้าเช็คตัว ผ้าเช็คหัวไว้ในห้อง, มีต้นไม้ในห้อง เป็นต้น ดังนั้น เพียงแค่เพื่อนๆ ไม่ทำให้ห้องมีความชื่นเพิ่มขึ้นในห้องที่เปิดแอร์ แอร์ก็จะทำงานน้อยลงแล้วครับ แล้วค่าไฟก็จะลดลงตามมาเอง
Focus ไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟก่อน
ในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงานนั้น เราต้องดูว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าไหนกินไฟมากๆด้วยครับ และถ้าเราสามารถลดค่าไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆได้แล้ว ค่าไฟโดยรวมของที่บ้านก็จะลดลงเช่นกัน ซึ่งบางบ้านค่าไฟหลักๆอาจจะมาจาก TV ก็ได้ เพราะว่าบางบ้านชอบเปิด TV ทิ้งไว้ เพื่อที่จะได้ไม่เงียบจนเกินไป แบบนี้ก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ไปเป็นฟังเสียงจากวิทยุในมือถือแทนได้ไหม เป็นต้น
หรือบ้านไหนที่มีค่าไฟหนักๆมาจากเครื่องปรับอากาศ ก็ลองนำแผ่นกรองไปทำความสะอาดทุกอาทิตย์ และเปิดพัดลมเพื่อช่วยให้ห้องเย็นขึ้นแทนปรับอุณหภูมิให้ลดลง เพราะว่าค่าไฟของพัดลมจะถูกกว่าค่าไฟของแอร์ประมาณ 20 เท่าขึ้นไปครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ ดังนั้นคุณจะต้องเปิดพัดลมสัก 20 ตัว เบอร์แรงสุดพร้อมกัน ถึงจะเริ่มกินไฟประมาณแอร์ขนาด 1 ตันแค่เครื่องเดียวครับ ฮ่าๆๆๆๆ (แอร์ 1 ตันกินไฟประมาณ 1200 - 1300 Watts แต่พัดลมกินไฟประมาณ 60 - 70 Watts)
โดย buildsweethome.blogspot.com
Photos: Wikipedia / Creative Commons
ขอบคุณมากเลยครับ ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ สำหรับการออกแบบและจัดวางเพื่อทำให้บ้านสวยๆ เป็นบ้านประหยัดพลังงานยังมีต่อนะครับ เชิญไปอ่านได้ที่ ออกแบบให้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ตอนที่ 3