ไม่แช่ของในตู้เย็นมากเกินไป
พอคุณอยู่บ้านไปสักพัก จะเริ่มมีของในตู้เย็นเต็มไปหมด เพราะจะทิ้งก็เสียดาย เดี๋ยวมื้อถัดไป กินไม่อิ่มจะได้มีอะไรกิน หรือมีของกินที่มันลดราคา หรือซื้อ 1 แถม 1 มาตุนไว้....แล้วเราก็ลืมกิน (- -a) ดังนั้น ถ้าเห็นว่าตู้เย็นมีของเยอะ เราต้องรีบไปดูว่าอะไรที่มันหมดอายุแล้ว หรือไม่ได้กินอีกแน่ๆ ก็ทิ้งๆไปนะครับ เพื่อเป็นการลดภาระการทำงานของตู้เย็น
ปรับอุณหภูมิของตู้เย็นให้เหมาะสม
พอเราจัดการของในตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว จะเห็นเลยว่าตู้เย็นโล่งขึ้นเยอะ แบบนี้ตู้เย็นก็ไม่ต้องทำงานหนักและของที่แช่ก็เย็นมากกว่าเดิม เพราะมีของน้อยลง ดังนั้นเราสามารถปรับอุณหภูมิของตู้เย็นให้ทำงานลดลงได้นะครับ เพียงเท่านี้ เราก็จะประหยัดไฟกันได้แล้ว
ไม่แช่ของที่ยังร้อนๆเข้าไปในตู้เย็น
อันนี้บางคนไม่ได้สนใจ แต่การที่เราใส่กับข้าว หรือของที่ยังร้อนเข้าไปในตู้เย็นนั้น จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักโดยที่ไม่จำเป็นครับ แค่เราวางของไว้ข้างนอกจนเย็นแล้วค่อยนำไปแช่ตู้เย็นแบบนี้จะช่วยประหยัดค่าไฟได้ครับ
แช่ของที่หยิบบ่อยๆจากตู้เย็น ไว้ตำแหน่งที่หยิบง่าย
อันนี้เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆ แต่ช่วยได้จริงๆ เพราะวันนึงเราเปิดตู้เย็นกันหลายรอบ โดยเฉพาะวันหยุดที่อยู่บ้านทั้งวัน เราจะเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำหรือของกินก็หลายรอบแล้วจริงไหมครับ ดังนั้น แค่เราจัดของให้หยิบง่ายขึ้น เช่น เราจะเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำดื่ม แบบนี้ก็วางไว้บริเวณที่เห็นและหยิบง่ายๆ เป็นต้น จะได้เปิดตู้เย็นแค่แปปเดียว ฮ่าๆๆๆๆ
หุ้งข้าววันละครั้ง
อันนี้สำหรับบ้านไหนที่รู้แน่ว่า วันนี้ต้องกินข้าว 2 หรือ 3 มื้อที่บ้านอยู่แล้ว แบบนี้เราก็หุ้งข้าวแค่รอบเดียวก็พอครับ ถ้าไม่หุ้งรอบเดียวจะทำให้เราต้องเสียค่าไฟเพื่อหุ้งข้าวหลายรอบ และยังต้องล้างหม้อหุ้งข้าวก่อนหุ้งใหม่ทุกครั้งครับ ดังนั้นจะไม่ใช่แค่ค่าไฟสำหรับหุ้งข้าว แต่ยังมีค่าน้ำ และค่าไฟจากปั๊มน้ำอีกด้วยนะ อิอิ
สำหรับเทคนิคนี้ ผมเคยเห็นรายการทีวีญี่ปุ่น เขาจะหุ้งข้าวรอบเดียวเยอะๆ แล้วเก็บในถุงสำหรับแต่ละมื้อ พอข้าวเย็นแล้วก็จะเก็บในตู้เย็นที่ช่องแข็ง แล้วค่อยอุ่นในไมโครเวฟเมื่อต้องการจะรับประทาน แบบนี้จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้มากกว่าครับ เพื่อนๆจะใช้วิธีแบบคนญี่ปุ่นก็ได้ ฮ่าๆๆ
ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมนั้น ส่วนที่กินไฟมากที่สุด คือ หน้าจอครับ ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊ค หรือเครื่อง Desktop ก็ตาม ดังนั้น ถ้าไม่ใช้คอมเกิน 5 นาทีควรจะปิดหน้าจอนะครับ ต่อให้ตั้ง Screen Saver ไว้ก็ตาม มันก็ยังกินไฟอยู่ดี ดังนั้นการปิดจอจะเป็นวิธีที่ดูที่สุดครับ
เปิดประตูระบายความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์
ตามปกติแอร์จะทำงานหนักที่สุด คือ ช่วงแรกครับ โดยเฉพาะรุ่นที่เป็น inverter ดังนั้น เราลดความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์สัก 1-2 องศา เพียงแค่นั้น ก็ช่วยให้เราประหยัดค่าไฟได้แล้วครับ ถ้าอยากให้ห้องลดความร้อนเร็ว ก็เปิดพัดลมช่วยระบายความร้อนในตอนที่เปิดประตูด้วยก็ได้ครับ พัดลมมันกินไฟน้อยกว่าแอร์หลายสิบเท่าครับ
จำเป็นต้องอาบน้ำอุ่นไหม
เพราะประเทศเราก็มีฤดูร้อน กับฤดูร้อนมากๆ เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการอาบน้ำอุ่น หรืออาบน้ำร้อน ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องอาบน้ำอุ่นก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว หรือปรับอุณหภูมิน้ำให้ไม่ต้องอุ่นมากก็ได้ครับ เพียงแค่นี้ก็ประหยัดเงินได้แล้วครับ
ตอนนี้เพื่อนๆคงเห็นแล้วว่า เฉพาะตู้เย็นก็มีวิธีมากมายในการช่วยประหยัดค่าไฟ และอุปกรณ์แต่ละอย่างที่ผมเล่าไปนั้นก็มีวิธีอื่นๆอีกที่ช่วยให้ประหยัดได้ครับ โดยวิธีส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราทำเป็นประจำในทุกๆวันอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะลืมกันไปว่ามันสามารถช่วยให้ลดค่าไฟได้เพียงปรับเปลี่ยนอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ และเพื่อนๆสามารถตามไปอ่านเพิ่มเติมได้อีกนะครับสำหรับ วิธีลดค่าไฟที่ได้ผลจริง ภาค 3
สำหรับใครที่ต้องการให้บ้านสวยๆของเรานั้นเป็นบ้านประหยัดพลังงานกันสุดๆล่ะก็ ผมแนะนำให้เริ่มกันตั้งแต่การออกแบบบ้านเลยครับ ไปอ่านกันได้ที่ ออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน