เดี๋ยวนี้เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆมีฟังก์ชั่นการทำงานให้เลือกเยอะมากจนเริ่มจะสับสนกันแล้ว แต่ถึงกระนั้นแล้วฟังก์ชั่นหรือสิ่งที่เราควรจะเรียนรู้กันไว้ก็คือ การซักผ้าด้วยน้ำร้อน กับการซักผ้าด้วยเย็น ดังนั้นวันนี้เราลองมาดูกันดีกว่าครับการซักผ้าด้วยด้วยน้ำร้อนกับน้ำเย็นนั้นต่างกันอย่างไร และเราควรเลือกอุณหภูมิเท่าไรกันดี
ข้อดีของการซักเสื้อผ้าด้วยน้ำร้อน
กำจัดไรฝุ่นได้ - การใช้น้ำร้อนซักผ้าจะช่วยฆ่าพวกไรฝุ่นได้ รวมถึงด้วยล้างสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ ซึ่งอุณหภูมิที่สามารถกำจัดได้ผลนั้นต้องเป็นน้ำร้อนมากกว่า 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป
แต่ทีนี้เครื่องซักผ้าส่วนมากมักจะวัดอุณหภูมิของน้ำร้อนในขณะที่น้ำยังอยู่ท่อเติมน้ำหลังจากออกจากเครื่องทำน้ำร้อนใหม่ๆ ดังนั้นอุณหภูมิในถังซักก็ไม่ค่อยถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วถ้าผมต้องการซักผ้าให้ฆ่าเชื้อจริงๆ ผมจะปรับไปที่ 90 องศาเซลเซียสครับ รับรองว่าร้อนจริงแน่นอน
ผ้าหอมกว่า - ถ้าคุณเคยซักผ้าด้วยน้ำร้อนกันมาบ้าง น่าจะจำได้ผ้าจะหอมกว่าและหอมนานกว่าด้วยในกรณีที่เราใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
ผงซักฟอกละลายน้ำได้ดีกว่า - เครื่องซักผ้าบางบ้านอาจจะมีปัญหาว่าผงซักฟอกละลายน้ำไม่ค่อยหมด เห็นผงๆติดที่เสื้อผ้าหลังซักเสร็จ โดยเฉพาะเสื้อสีดำจะเห็นผงซักฟอกที่ละลายไม่หมดชัดมาก แต่ถ้าเป็นการซักด้วยน้ำร้อนจะแก้ปัญหาเรื่องได้ครับ
ข้อเสียการใช้น้ำร้อนซักผ้า
เปลืองไฟ - หนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากๆก็จะมีเครื่องทำน้ำร้อนอยู่ด้วย ดังนั้นการที่เราซักผ้าด้วยน้ำร้อน ค่าไฟที่บ้านก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ
ผ้ายับกว่า - อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ รู้สึกว่าการใช้น้ำร้อนๆซักผ้า เวลาที่ผ้าซักเสร็จเห็นว่ายับกว่ามากๆ
จริงๆข้อดี-ข้อเสียของการซักผ้าด้วยน้ำเย็นนั้นมันก็ตรงกันข้ามกับการใช้น้ำร้อนครับ ดังนั้นจะเขียนสั้นๆน่ะครับ
ประหยัดไฟ - เพราะไม่ต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำร้อน
เนื้อผ้าไม่เสียหาย - การใช้น้ำเย็นซักผ้า ทำให้เราไม่ต้องห่วงว่าเสื้อผ้าจะเสียหายจากอุณหภฺูมิที่สูงเกินไปไหม
ข้อเสียในการซักผ้าด้วยน้ำเย็น
เครื่องซักผ้าหลายๆรุ่นจะมีโปรแกรมมาให้เลือกใช้เลย ทำให้เราไม่ต้องมานั่งเลือกอุณหภูมิของน้ำที่จะซักกันเอง |
กลิ่นหอมน้อยกว่า - อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัว คือ ชอบกลิ่นของผ้าหลังซักด้วยน้ำร้อนมากกว่าครับ
/// ซักเสื้อผ้าเลือกน้ำอุณหภูมิเท่าไรดี? ///
ถ้าเป็นไปได้ลองดูที่ป้ายก่อนครับว่ามีเขียนบอกไว้ไหมว่า ซักได้ที่อุณหภูมิเท่าไร ถ้าหาป้ายไม่เจอก็ลองดูอุณหภูมิตามข้อมูลด้านล่างเลยครับ
• 90 องศาเซลเซียส - พวกผ้าฝ้ายสีขาว, ผ้าปูเตียง, ผ้าเช็ดตัว
• 50 ถึง 60 องศาเซลเซียส - เสื้อผ้าที่สีไม่ตก, เสื้อเชิ้ต, ชุดนอน, ผ้าลินิน, ผ้าใยสังเคราะห์, ชุดชั้นใน, ผ้ายีนส์
• น้ำเย็น ถึง 40 องศาเซลเซียส - ผ้าเนื้อบางๆ, ผ้าขนสัตว์ (ผ้าขนสัตว์ต้องดูที่ป้ายด้วย ต้องเขียนว่าซักเครื่องได้)
โดย buildsweethome.blogspot.com
แล้วถ้าเพื่อนๆมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมาบอกกันได้เลยครับ ส่วนวิธีการเลือกรอบปั่นลองดูที่นี้ครับ [เลือกรอบปั่นเครื่องซักผ้าอย่างไร]