ตอนที่เราซื้อบ้านใหม่ หรือคอนโดใหม่ แม้กระทั่งซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ใช้เงินเยอะเหมือนกัน คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านครับ ทีนี้ไหนๆเราก็จะต้องจ่ายเงินซื้อของทั้งที เรามาเลือกให้คุ้มค่าเงินที่เราต้องจ่ายกันดีกว่าครับ ก่อนอื่นต้องเล่าแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของผมก่อนนะครับ ตอนนี้ผมจะให้ความสำคัญกับความทนทาน และการประหยัดไฟเป็นสิ่งสำคัญ
ความทนทาน
ตอนนี้ก็อย่างที่เราๆรู้กันของใช้ต่างๆ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทำออกมาแล้ว ไม่ได้ทนไม้ ทนมือเหมือนเมื่อก่อน หลายยี่ห้อพอหมดระยะประกันเสร็จ พังเลย!?!? ทำให้หลังๆผมจึงดูยี่ห้อที่คิดว่ามันน่าจะทนหน่อยนะครับ โดยการหาข้อมูลจาก internet ดูว่ามีคนบ่นกันเยอะไหม แต่ว่าในบทความนี่้ผมจะไม่ระบุยี่ห้อนะครับ เพราะเวลาผ่านไป ยี่ห้อที่บอกไว้มันก็มีโอกาสเปลี่ยนแปลงคุณภาพกันได้นะครับ
ประหยัดไฟ
อันนี้สำคัญมาก เพราะว่า สองปีที่ผ่านค่าไฟฟ้า เล่นปรับทั้งราคาต่อหน่วย และค่า FT ขึ้นกันอย่างสนุกสนานเลย ตอนอยู่บ้านเก่า ที่บ้านผมเคยช่วยกันประหยัดไฟทั้งเดือน ตอนได้บิลหมดแรงกันทั้งบ้าน คือ หน่วยที่ใช้ไฟฟ้าลดลงหลายร้อยหน่วย แต่ค่าไฟขึ้นหลายร้อยบาท เพราะการปรับราคาครับ ทำให้ตอนนั้นนั่งคำนวณ เรื่องการใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในบ้านกันจริงจังเลย จริงจังจริงๆนะ ทำใส่ตารางกันเลย ดูว่าอะไรใช้ไฟเยอะ ทำให้พอผมมาซื้อบ้านใหม่ ก็เลยใช้แนวคิดนี้อยู่ในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ ผมจะมาสรุปให้ฟังคร่าวๆว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวไหนที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์
เพราะว่าผมนอนเปิดแอร์ทุกคืนครับ และตอนกลางวันวันเสาร์-อาทิตย์ก็เปิดบ้างเป็นบางวัน ทำให้แอร์ที่จะซื้อต้องเป็นระบบ Inverter เท่านั้นครับ เพราะระบบ inverter จะกินไฟมากแค่ช่วงแรกๆ หลังจากนั้นจะกินน้อยลงมากครับ ซึ่งไม่เหมือนแอร์ระบบเก่าที่ compressor จะทำงานแล้วก็หยุดเมื่ออุณหภูมิถึงค่าที่ตั้ง และก็จะกลับมาทำงานอีก ซึ่งมีข้อเสียหลักๆ คือ กินไฟมากกว่า และเสียงที่ดังกว่าระบบ inverter มากครับ
ดังนั้นถ้าใครเปิดแอร์บ่อยๆและนานๆ ควรเลือกระบบ Inverter เท่านั้นครับ และถ้าใครจะดูค่า EER ตอนที่เลือกด้วยก็ได้ครับ ยิ่งค่า EER มาก แสดงว่าประหยัดไฟมากครับ ทีนี้ถ้าใครจะดูเฉพาะฉลากประหยัดเบอร์ 5 อย่างเดียว ผมแนะนำต้องดูปีของฉลากด้วยนะครับ เพราะว่ามาตรฐานของเบอร์จะมีการปรับนะครับ บางรุ่นบางยี่ห้อ ขายโดยใช้ฉลากเบอร์ 5 ของปีเก่าๆก็มีนะ ดูปีเอาไว้ด้วยนะครับ
ตู้เย็น
ผมคิดว่า บ้านทุกคนต้องมีตู้เย็น และตู้เย็นนี้ล่ะที่เราเปิดตลอด แข่งกับ 7-11 ได้เลย ตู้เย็นเองก็มี compressor ดังนั้นถ้าเลือกตู้เย็นทั้งที ก็เลือกให้มีระบบ inverter ด้วยครับ เพราะว่าจะประหยัดไฟกว่ากัน และตู้เย็นเองปกติก็ไม่ค่อยมีใครปิดอยู่แล้ว ทำงานตลอดเวลาแบบนี้ระบบ inverter ยิ่งประหยัดไฟกว่าเยอะครับ
ปั้มน้ำ
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำงานให้เราทุกวัน คือ ปั๊มน้ำ และเช่นกันครับ ปั๊มน้ำเองก็มีระบบ inverter แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ ซึ่งมีข้อดีกว่า คือ ประหยัดไฟ และเงียบกว่าครับ อ้อ การเลือกซื้อปั๊มน้ำ แนะนำให้ซื้อเผื่อติดตั้ง Rain shower ไปเลยนะ ถ้าอนาคตอยากมี Rain Shower จะได้ไม่ต้องซื้อปั๊มน้ำอีก
สุขภัณฑ์ หรือชักโครก
มันไม่ได้ใช้ไฟฟ้านี้ จะไปดูมันทำไม??? จริงๆชักโครกมันจะเกี่ยวข้องกับปั๊มน้ำครับ และเราก็เข้าห้องน้ำกันวันนึงหลายๆครั้งอยู่แล้ว พอเรากดน้ำเสร็จ ปั๊มน้ำก็จะทำงานครับ ดังนั้นเราสามารถประหยัดค่าไฟฟ้ากันได้ง่ายๆ โดยการไม่เข้าห้องน้ำครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ ไม่ใช่ล่ะ เราสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้โดยการเลือกชักโครกที่ประหยัดน้ำครับ เช่น ชักโครกรุ่นใหม่จะมีให้กดน้ำ 2 ระดับ คือ ใช้น้ำน้อย กับใช้น้ำมาก ถ้าใช้น้ำน้อยมันก็จะใช้งานปั๊มน้ำน้อยลงด้วย ทำให้ค่าไฟลดลงไปได้อีก อิอิ ซึ่งมันใช้น้ำต่างกันเยอะครับ ปกติรุ่นธรรมดาจะใช้ 6 ลิตร แต่ถ้ารุ่นใหม่ๆจะใช้แค่ 3 ลิตรสำหรับน้ำน้อย และ 4.5 ลิตรในการใช้น้ำมาก แต่ถ้าอยากได้ตัว TOP เห็นมีข่าวออกมาว่า "ใช้น้ำครั้งละ 1 ลิตรเท่านั้น!!!" บร๊ะเจ้ามากๆๆๆ ถ้าใครซื้อไปใช้แล้วมาบอกผมหน่อยว่ามันสะอาดไหม ฮ่าๆๆๆๆๆ
เครื่องซักผ้า
จริงๆ เครื่องซักผ้าก็ใช้ไฟฟ้า แต่ผมอยากให้ดูเรื่องปริมาณการใช้น้ำมากกว่าครับ เพราะว่า เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆ จะมีระบบที่ช่วยประหยัดน้ำตอนซัก บ้านผมเปลี่ยนจากตัวเก่าๆฝาบน เป็นรุ่นใหม่ฝาหน้าและมีระบบที่ช่วยประหยัดน้ำ โอโห้ ค่าน้ำลดลงเลยหลายหน่วยครับ
เครื่องทำน้ำร้อน หรือเครื่องทำน้ำอุ่น
อันนี้ผมไม่ค่อยอาบน้ำร้อนบ่อยนัก เลยไม่ได้ใส่ใจมากครับ แต่ถ้าใครชอบอาบน้ำร้อนก็เลือกๆ หน่อยแล้วกัน เพราะว่าเครื่องทำน้ำร้อน ก็เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินมากที่สุดในบ้านของหลายๆคนนะครับ
หลอดไฟ
ผมเชื่อว่าบ้านคุณต้องมีหลอดไฟ คงไม่ได้ใช้เทียนอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆ ดังนั้นก็เลือกหลอดไฟที่คุ้มค่าหน่อยแล้วกัน เพราะหลอดไฟมันก็มีให้เลือกเยอะมาก หลอดไฟที่ประหยัดที่สุด อย่างหลอด LED มันก็แพงไปหน่อย ผมว่าต้องดูก่อนว่า หลอดไฟบริเวณไหนเปิดตลอดก็ลงทุนมากหน่อย ตรงไหนไม่ค่อยเปิดก็ซื้อหลอดประหยัดแบบธรรมดาไปก็ได้ แล้วก็เลือก watt ตามความเหมาะสมครับ ตรงไหนไม่ต้องการแสงมาก ก็ซื้อแบบที่ watt น้อยหน่อย จะได้ประหยัดค่าไฟในระยะยาว
TV
โอ้ อันนี้ขึ้นกับคุณแล้วล่ะ ว่าดูบ่อยไหม และขนาด TV กี่นิ้ว อันนี้ไม่ขอลงรายละเอียดนะครับ เพราะว่าเทคโนโลยีมันไปเร็ว พอผ่านไปแปปเดียว TV ก็มีเทคโนโลยีใหม่มาอีกล่ะ อันนี้ฝากเฉพาะคนที่ดู TV บ่อยๆนะครับ
ผมเชื่อว่า ถ้าคุณได้เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เล่าไปทั้งหมดให้ประหยัดไฟแล้ว ค่าไฟบ้านคุณจะลดลงอย่างแน่นอนครับ แบบนี้ยิ่งอยู่บ้านไปหลายๆปี ยิ่งคุ้มเงิน และบ้านของคุณก็จะกลายเป็น"บ้านประหยัดพลังงาน"ไปในตัวด้วยครับ และถ้าเพื่อนๆคนไหนมีเคล็ดลับดีในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็แนะนำกันได้นะครับ ขอบคุณมากครับ
**รูปเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Wikipedia (Creative Commons) ครับ**