คุณเคยจับเวลาที่ต้องใช้การเดินทางในแต่ละวันไหมครับ ทีนี้ลองไปคำนวณเวลาที่คุณต้องเสียไปในการเดินทางใน 1 เดือนหรือ 1 ปีดูซิ บางครั้งมันเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก เพราะผมเองเคยเสียเวลาเดินทางไปทำงานในแต่ละวัน หนึ่งชั่วโมงครึ่ง และขากลับอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง อันนี้คือติดระดับปกติน่ะครับ แต่ถ้าเป็นวันศุกร์แห่งชาติ หรือวันที่ฝนตกแล้วล่ะก็ ฮ่าๆๆๆๆ ติดแทบสิ้นใจกันไปข้างหนึ่งเลยครับ ดังนั้นผมเองก็เคยมีคำถามว่า "จะซื้อบ้านหรือคอนโดให้มันติดที่ทำงานเลยดีไหม เอาแบบเดินไปทำงานเลยได้"
ซื้อบ้านหรือคอนโด ใกล้ที่ทำงานดีไหม
ตอนนั้นผมจริงจังมากครับ เพราะรู้สึกว่าวันละ สองชั่วโมงครึ่ง ถึงสามชั่วโมงทุกๆวันที่ไปทำงานแบบนี้ มันไม่ดีในระยะยาว เพราะผมอยากเอาเวลาไปทำอย่างอื่นครับ ซึ่งอาทิตย์นึงเสียเวลาเดินทางไปอย่างน้อยสิบสองชั่วโมง เอาล่ะมาดูสิ่งที่ผมพิจารณาและปรึกษากับครอบครัวแล้วก็ได้ข้อสรุปคือ
ทำเลของที่ทำงาน คือสิ่งสำคัญ
สถานการณ์ในโลกปัจจุบันอะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ คุณอาจจะต้องย้ายงานก็ได้จริงไหมครับ ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวกับความสามารถของคุณเลย เช่น บริษัทอาจจะปิดไซค์ที่ประเทศไทย หรือน้ำท่วมบ่อยจังเลย บริษัทเลยย้ายที่ทำงาน หรือคุณไม่อยากจะทำงานกับท่านหัวหน้าคนนี้แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ ประเด็นของผม คือ ไม่อยากให้บ้านที่คุณตัดสินใจซื้อไปเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนงานครับ แต่มันก็ยังมีทำเลของบริษัทหลายแห่งๆที่ผมมองว่า เราสามารถซื้อบ้านใกล้ๆที่ทำงานได้
1. ที่ทำงานคุณอยู่ติดแนวรถไฟฟ้า - ไม่ว่าจะเป็น BTS, รถไฟใต้ดิน หรือแอร์พอร์ตลิงค์ แบบนี้การซื้อบ้านหรือคอนโดใกล้ที่ทำงาน มันเป็นอะไรที่ Make Sense มากครับ เห็นด้วยเลย ถึงในอนาคตคุณต้องย้ายที่ทำงาน ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยมีก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้
2. ที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม - เนื่องจากที่ทำงานของใครหลายๆคนไม่ได้อยู่ในแนวรถไฟฟ้า แต่ว่าอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม แบบนี้ก็ยังเป็นเหตุผลพอรับได้ครับ เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโด คุณต้องผ่อนกันยาวเลยน่ะ 10 ปีอัพ ถ้าโรงงานปิดตัว หรืออยากเปลี่ยนงาน คุณก็สามารถไปหางานในบริษัทอื่นในนิคมฯได้ (หมายเหตุ บางนิคมฯ มีกฏห้ามดึงตัวคนงานน่ะครับ กรุณาศึกษาก่อนซื้อ)
3. บริษัทที่คุณจะฝากชีวิตด้วย - สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนใจเย็น เชื่อมั่นว่าสามารถรับมือได้กับทุกอุปสรรคในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การโยนงาน การปัดความรับผิดชอบ คุณจะทำงานที่นี่ไปจนเกษียณ และทำงานที่นี่มานานแล้ว แบบนี้ซื้อบ้านใกล้ๆที่ทำงานเถอะครับ
ซื้อบ้านหรือคอนโด ใกล้ที่ทำงานดีไหม
ตอนนั้นผมจริงจังมากครับ เพราะรู้สึกว่าวันละ สองชั่วโมงครึ่ง ถึงสามชั่วโมงทุกๆวันที่ไปทำงานแบบนี้ มันไม่ดีในระยะยาว เพราะผมอยากเอาเวลาไปทำอย่างอื่นครับ ซึ่งอาทิตย์นึงเสียเวลาเดินทางไปอย่างน้อยสิบสองชั่วโมง เอาล่ะมาดูสิ่งที่ผมพิจารณาและปรึกษากับครอบครัวแล้วก็ได้ข้อสรุปคือ
ทำเลของที่ทำงาน คือสิ่งสำคัญ
สถานการณ์ในโลกปัจจุบันอะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ คุณอาจจะต้องย้ายงานก็ได้จริงไหมครับ ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวกับความสามารถของคุณเลย เช่น บริษัทอาจจะปิดไซค์ที่ประเทศไทย หรือน้ำท่วมบ่อยจังเลย บริษัทเลยย้ายที่ทำงาน หรือคุณไม่อยากจะทำงานกับท่านหัวหน้าคนนี้แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ ประเด็นของผม คือ ไม่อยากให้บ้านที่คุณตัดสินใจซื้อไปเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนงานครับ แต่มันก็ยังมีทำเลของบริษัทหลายแห่งๆที่ผมมองว่า เราสามารถซื้อบ้านใกล้ๆที่ทำงานได้
1. ที่ทำงานคุณอยู่ติดแนวรถไฟฟ้า - ไม่ว่าจะเป็น BTS, รถไฟใต้ดิน หรือแอร์พอร์ตลิงค์ แบบนี้การซื้อบ้านหรือคอนโดใกล้ที่ทำงาน มันเป็นอะไรที่ Make Sense มากครับ เห็นด้วยเลย ถึงในอนาคตคุณต้องย้ายที่ทำงาน ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยมีก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้
2. ที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม - เนื่องจากที่ทำงานของใครหลายๆคนไม่ได้อยู่ในแนวรถไฟฟ้า แต่ว่าอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม แบบนี้ก็ยังเป็นเหตุผลพอรับได้ครับ เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโด คุณต้องผ่อนกันยาวเลยน่ะ 10 ปีอัพ ถ้าโรงงานปิดตัว หรืออยากเปลี่ยนงาน คุณก็สามารถไปหางานในบริษัทอื่นในนิคมฯได้ (หมายเหตุ บางนิคมฯ มีกฏห้ามดึงตัวคนงานน่ะครับ กรุณาศึกษาก่อนซื้อ)
3. บริษัทที่คุณจะฝากชีวิตด้วย - สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนใจเย็น เชื่อมั่นว่าสามารถรับมือได้กับทุกอุปสรรคในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การโยนงาน การปัดความรับผิดชอบ คุณจะทำงานที่นี่ไปจนเกษียณ และทำงานที่นี่มานานแล้ว แบบนี้ซื้อบ้านใกล้ๆที่ทำงานเถอะครับ
เรียบเรียงข้อมูลโดย buildsweethome.blogspot.com
สามข้อด้านบนเป็นทำเลที่ผมคิดว่า เหมาะสมสำหรับการซื้อบ้านหรือคอนโดใกล้ที่ทำงานครับ แล้วเพื่อนๆมีความคิดเห็นอะไรมาแชร์กันได้เลยครับ