ตอนที่ผมเป็นเด็กก็มักจะโดนผู้ใหญ่ห้ามปรามเวลาที่นั่งดูทีวีอยู่บ่อยๆ และเหตุผลที่ผมมักจะได้ยินบ่อยๆเวลาที่ไม่ให้ดูทีวีก็คือ "ดูทีวีมากๆเดี๋ยวจะไม่ฉลาดน่ะ" บางครั้งก็บอกว่า "ดูมากๆเดี่ยวโง่!!!" ทั้งๆที่สมัยก่อนยังไม่มีดาราใส่กระโปร่งสั้นเสมอหูด้วยน่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่พอตัวผมเองล่วงกาลผ่านวัยมากึ่งหนึ่ง สีผมบนหัวเริ่มมีการไฮไลต์เป็นสีขาวบ้างเป็นบางเส้น ทำให้พอที่จะเข้าใจอะไรได้บ้าง ก็เลยอยากจะมาเขียนบันทักไว้น่ะที่นี้
เหตุผลว่าทำไมเด็กไม่ควรดูทีวีมากเกินไป และหันมาอ่านหนังสือให้มาก
ก่อนอื่นเราลองมาสังเกตุก่อน รายการทีวีส่วนมากน่ะ พวกเขาให้พวกเรานั่งดู นอนดูกันฟรี ฟรี!!! แถมยังพยายามผลิตละครมาอยู่เรื่อยๆ เราพอจะนึกออกไหมว่าพวกเขาจะมีรายได้หรือกำไรจากอะไรล่ะครับ....คำตอบหลักๆก็คือ "ค่าโฆษณา" ไงครับ ดังนั้น สิ่งที่อันตรายจริงๆจากการให้เด็กๆนั่งดูทีวีมากเกินไป นอกจากรายการของเมืองไทยที่.....หาดีๆได้ยากแล้ว ถ้าคุณปล่อยให้ลูกดูทีวีเยอะๆ หรือดูโฆษณามากๆน่ะเหรอ ลูกคุณจะค่อยๆโดนโฆษณามันดึงดูด หรือถ้าจะพูดให้แรงๆก็คือ "มันสอนให้ลูกคุณอยากใช้เงิน!!!" เพราะการตลาดหรือโฆษณา มันมักจะเต็มไปด้วยสิ่งกระตุ้นให้คนดูรู้สึกอยากไปซื้อ อยากเป็นเจ้าของ อยากหน้าใส อยากทานอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม อยากใช้ของ... อยาก... โอ้ยอยากไปหมด สรุปง่ายๆโฆษณาโดยส่วนมาก มันจะกระตุ้นให้ไปใช้เงิน
ทีนี้การอ่านหนังสือมันตรงกันข้าม หนังสือจะขายได้แสดงว่า เนื้อหามันต้องดีจริงๆ ถ้าเป็นนิยายเนื้อหาก็ต้องสนุก ชวนให้ติดตามจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องแต่งก็ต้องใช้จินตนาการ แบบอ่านแล้ววางไม่ลง หรือหนังสือหมวดพัฒนาตัวเองก็ต้องได้ความรู้ พร้อมแรงบันดาลใจแบบสุดๆ อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่งั้นหนังสือเล่มนั้นก็จะขายไม่ออก!!!
เอาล่ะครับ สุดท้ายถ้าเราอยากให้ลูกๆหันมาอ่านหนังสือกันมากขึ้น ดูทีวีน้อยลง เล่นโทรศัพท์มือถือกันลดลง ขั้นแรกที่ต้องทำเสมอและข้ามขั้นตอนนี้ไปไม่ได้ คือ "ทำให้ดูเป็นตัวอย่างครับ" หรืออธิบายง่ายๆตามคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี ก็คือ "พูดให้ฟัง ทำให้ดู เป็นตัวอย่างให้ประจักษ์จริง" แบบนี้เท่านั้น ที่ลูกๆของคุณถึงจะยอมทำตาม ขอบคุณครับ
ปล. สิ่งที่ผมเขียนเป็นความรู้สึกและความคิดเห็นส่วนตัวทั้งหมดทั้งสิ้น และรายการทีวีกับโฆษณาดีๆ จริงๆก็ยังมีอยู่ครับ เพียงแต่มันหายากและน้อยมากเพื่อเทียบกับจำนวนโฆษณาที่ถูกผลิตออกมา และเช่นเดียวกันกับหนังสือ หนังสือที่ไม่ดีมันก็มีครับ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ
โดย buildsweethome.blogspot.com