สำหรับคนไทยบางคนนั้นหุงข้าวเป็นก่อนที่จะพูดเป็นเสียอีก...(ให้ลูก กดปุ่มอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆ) ดังนั้นหม้อหุงข้าวจึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นในบ้านของคนไทย และแน่นอนของใช้มันก็ต้องมีวันพังกันบ้าง งั้นวันนี้เรามาดูวิธีเลือกซื้อหม้อหุงข้าวใบใหม่กันดีกว่าครับ
วิธีเลือกซื้อหม้อหุงข้าวใช้ที่บ้าน ต้องดูอะไรบ้าง?
สมาชิกในบ้าน - สิ่งแรกที่เราต้องดูกันก่อนเลย คือ บ้านของเรามีสมาชิกกี่คนครับ เช่น ที่บ้านคุณอยู่กันแค่ 2 คน สามีภรรยาแบบนี้ 1 ลิตรก็พอครับ ถ้า 3 - 4 ก็ประมาณ 1.5 - 2 ลิตร ขึ้นอยู่กับว่าบ้านคุณกินข้าวกันเยอะไหม หรือว่าลูกๆยัง 1 ขวบอยู่เลย
ถ้าคุณเลือกใหญ่เกินไป สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แพงกว่า เปลืองไฟกว่า และบางรุ่นหุงแค่ข้าว 1 ถ้วยไม่ได้ครับ ขั้นต่ำต้อง 2 ถ้วย ถ้าหุงแค่ 1 ถ้วยข้าวอาจจะไหม้ได้ อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัว
ถ้าคุณเลือกขนาดเล็กเกินไป สิ่งที่เจอคือ กินข้าวไม่อิ่ม อาจจะต้องหุงสองรอบ ซึ่งเปลืองไฟและเสียเวลากว่าเยอะครับ ดังนั้นเลือกให้พอดีกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวจะเป็นการดีที่สุดครับ
ประเภทหม้อหุงข้าว - ตอนแรกที่ไปซื้อหม้อหุงข้าวก็นึกว่ามีแบบเดียว แต่เพิ่งรู้ว่ามันมีหลายประเภทน่ะครับ ดูกันเลย
• หุงได้อย่างเดียว - หม้อหุงข้าวแบบนี้ ถูกมากกกกกก 200 บาทก็มี ฝาจะเป็นเหล็กกิ๊กก๊อกที่สามารถยกออกไปได้ และไม่สามารถอุ่นได้น่ะครับ
◦ ข้อดี - ถูกมากกกกก หุงข้าวเร็วที่สุดประมาณ 20 นาทีเสร็จแล้ว
◦ ข้อเสีย - อุ่นไม่ได้ หุงข้าวได้อย่างเดียว ทำได้แค่นั้น
• หุงได้พร้อม มีอุ่นอัตโนมัติ - รุ่นนี้จะเป็นแบบที่ใช้กันทั่วไปครับ คือ มีปุ่มให้กดหุงและกดอุ่นได้
◦ ข้อดี - หุงได้ อุ่นได้ ใช้เวลาในการหุงค่อนข้างเร็ว 25 นาทีโดยประมาณ ราคาปานกลาง
◦ ข้อเสีย - ทำได้แค่ หุงข้าวกับอุ่นข้าว
• หม้อหุงข้าวแบบ Digital - ตอนนี้เราอยู่ในยุคของ Digital กันแล้ว หม้อหุงข้าวก็ต้องไฮโซด้วยซิครับ ซึ่งหม้อหุงข้าวรุ่นใหม่เนี่ยหุงข้าวอร่อยขึ้น และที่บ้านผมเป็นแบบ Digital ยอมรับว่าอร่อยกว่าครับ ข้าวจะนุ่มกว่า แต่มันก็มีข้อเสียน่ะ ลองไปดูข้อดี-ข้อเสียกันเลยครับ
◦ ข้อดี - หุงข้าวอร่อยกว่า หอมกว่า เลือกได้เลยว่าจะเป็นข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวต้ม หรือจะทำขนมเค้กก็ได้ ตั้งเวลาได้(ชอบมาก)
◦ ข้อเสีย - หุงข้าวนานกว่ามาก ประมาณ 45 นาทีสำหรับข้าวหอมมะลิ แต่ถ้าข้าวกล้องจะนานมากกกกกก นานเป็นชั่วโมงครับ!!! และแพงที่สุดครับ
ขีดบอกระดับน้ำ - บางคนอาจจะชอบเติมน้ำแล้วใช้นิ้วมือของเราในการวัดว่าน้ำพอดีแล้วหรือยัง แต่ว่าหม้อหุงข้าวรุ่นใหม่ๆจะมีขีดน้ำบอกระดับไว้เลยครับ ว่า 1 ถ้วยเติมเท่านี้ 2 ถ้วยเท่านี้ แถมยังแบ่งประเภทอีกว่า ถ้าเป็นข้าวหอมมะลิใช้ขีดนี้ ถ้าเป็นข้าวเหนียวใช้เส้นนี้
ฟังก์ชั่นพิเศษ - อันนี้ต้องดูคุณมีความต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า เช่น ผมต้องการหุงข้าวเหนียวด้วย และที่สำคัญต้องตั้งเวลาได้ เพราะว่าตื่นเช้ามาหรือกลับบ้านมา ข้าวก็จะเสร็จพอดี ได้ทานข้าวร้อนๆ อันนี้ลองไปดูครับ คุณต้องการอะไรเพิ่มเติม อาจจะเป็นทำข้าวต้ม-ทำโจ๊กให้คุณแม่ทานได้ หรือทำไข่ตุ๋นได้ เป็นต้น
การกินไฟ - เพราะมันเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า แถมยังเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กันบ่อยด้วย ส่วนมากใช้เกือบทุกวัน ดังนั้นอัตราการกินไฟจะมีต่อแน่นอน ซึ่งในปีๆนึงคุณอาจจะประหยัดเงินได้หลายร้อยบาทเลย เพียงแค่การเลือกรุ่นหม้อหุงข้าวที่ประหยัดไฟฟ้ามากกว่าครับ
ที่ซื้อ - อันนี้มาจากเรื่องจริงอันเจ็บปวด ตอนที่ซื้อหม้อหุงข้าวผมไปซื้อที่ห้างฯครับ ซึ่งผมเลือกแบบ Digital ด้วยราคาตอนนั้นมีส่วนลดเหลืออยู่ประมาณ พันกว่าบาท แต่อีกอาทิตย์นึงไปงาน Expo ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้ามาขายภายในงานด้วย หม้อหุงข้าว ยี่ห้อเดียวกัน ขนาดเท่ากัน รุ่นเดียวกัน แม่งถูกกว่าเกือบ 500 บาท T_T ดังนั้นถ้าคุณไม่รีบใช้ แนะนำให้ไปดูในงาน Expo ต่างๆครับ
ยี่ห้อ - อันนี้แล้วแต่ความชอบเลยครับ แต่สำหรับผมแล้วผมขอเลือกยี่ห้อที่มันดังไว้ก่อนน่ะ เช่น TOSHIBA, HITACHI, SHARP ส่วนยี่ห้อที่ไม่รู้จักแต่ถูกๆผมไม่ขอเสี่ยงน่ะครับ เพราะว่าเราทานข้าวทุกวัน วันนึงก็หลายมื้อ ดังนั้นผมขอเลือกยี่ห้อด้วยครับ (ยี่ห้อที่ผมซื้อก็อยู่ในตัวอย่างยี่ห้อที่เขียนไว้ครับ อิอิ)
โดย buildsweethome.blogspot.com
ถ้าเพื่อนๆมีอะไรอยากเพิ่มเติม มาแชร์ความคิดเห็นได้เลยน่ะครับ ขอบคุณครับ