ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องทำงานไปจนถึงห้องเรียนก็ติดตั้งแอร์หรือเครื่องปรับอากาศกันทั้งนั้น ซึ่งหลายๆคนก็ใช้งานกันทุกวันจนอาจจะลืมกันไปแล้วว่าซื้อมากี่ปีแล้ว ซึ่งหลายๆครั้งมันก็ถึงเวลาที่เราควรจะเปลี่ยนแอร์ตัวใหม่กันเสียที ดังนั้นวันนี้เรามาดู
5 สัญญาณที่บอกว่าเราควรเปลี่ยนแอร์ใหม่กันได้แล้วครับ
5 สัญญาณ ที่คุณควรเปลี่ยนแอร์ใหม่ได้แล้ว
อายุเกิด 10 ปี - บางห้องในบ้านไม่ค่อยได้เปิดแอร์เลย ทำให้แอร์เครื่องนี้อยู่มาเป็นสิบๆปี แล้วทีนี้บ้านเรามีสมาชิกเพิ่มขึ้น หรือต้องการมาใช้งานแอร์ห้องนี้ทุกวันแล้ว แบบนี้เราควรเปลี่ยนแอร์เครื่องใหม่ด้วยเลยครับ เพราะแอร์รุ่นเก่าๆนั้นกินไฟมากๆ ไม่ถึงหนึ่งปีคุณน่าจะโดนค่าไฟที่เพิ่มขึั้นเท่ากับค่าแอร์รุ่นใหม่แล้วครับ
เปิดที ดังถึงปากซอย - ผมเชื่อว่าเพื่อนๆต้องเคยมีประสบการณ์ที่เบื่อกับเสียงดังๆของแอร์ของข้างบ้านมาก เปิดทีนี้ดังไปอีกห้าบ้านแปดบ้าน ซึ่งการที่เปิดแอร์แล้วมีเสียงดังมากๆนั้น ก็เป็นอาการที่บ่งบอกว่าตัวคอมเพรสเซอร์ควรได้รับการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนใหม่ได้แล้วครับ
ค่าไฟหน้าร้อนขึ้นเยอะมาก - อีกหนึ่งสาเหตุที่เราควรเปลี่ยนแอร์ใหม่ก็คือ ช่วยประหยัดค่าไฟเป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีการดูว่าจะประหยัดได้มากแค่ไหนก็สามารถดูได้จาก ค่า EER ของแอร์ตัวเก่ากับแอร์รุ่นใหม่ๆครับ แต่ถ้าแอร์เครื่องที่บ้านไม่รู้ว่ามีค่า EER คือเท่าไร ก็ให้ดูจากค่าไฟในหน้าหนาวกับค่าไฟในหน้าร้อนครับ ดูว่าค่าไฟต่างกันมากแค่ไหน ซึ่งค่าไฟที่ต่างกันมากๆระหว่างหน้าหนาวกับหน้าร้อน โดยมากก็มาจากเครื่องปรับอากาศนี้ล่ะครับ
ซ่อมแพง - เครื่องใช้ไฟฟ้าเดี๋ยวนี้ ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ส่วนมากจะเกือบๆค่าเครื่องใหม่แล้ว ซึ่งการที่เราจะให้ช่างซ่อมแอร์นั้น ก็ควรสอบถามค่าใช้จ่ายก่อนด้วยครับ เพราะหลายครั้งซ่อมแอร์มาก็ไม่ได้เย็นเหมือนเก่าครับ ดังนั้นการซื้อแอร์ตัวใหม่อาจจะคุ้มค่ากว่า แถมรับประกันว่าเย็นแน่นอนครับ
แอร์ไม่เย็น - แน่นอนว่าเราเปิดแอร์ก็ต้องอยากให้อากาศภายในห้องของเราเย็นสบาย แต่ถ้าเราเปิดแล้วแอร์ไม่ยอมเย็น เรียกช่างมาซ่อม เรียกช่างมาล้างแอร์ก็ยังไม่หาย แบบนี้เราควรพิจารณาหาแอร์ตัวใหม่กันได้แล้วครับ
โดย buildsweethome.blogspot.com
แล้วถ้าเพื่อนๆมีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมก็มาเล่าให้ฟังกันได้เลยครับ ส่วนวิธีการทำความสะอาดแอร์ด้วยตัวเอง มาดูที่นี้ครับ [
วิธีทำความสะอาดแอร์]
