ถ้าบ้านใครปูพรมแล้วล่ะก็สิ่งที่คุณจะได้รับนอกจากความหรูหรา และนุ่ม สบายแล้ว คุณยังได้รับฝุ่นและความสกปรกที่จะค่อยๆติดอยู่ในพรมซึ่งได้มาฟรีๆ ทั้งๆทีอยู่มาได้ไม่นาน ทำให้เราควรที่จะต้องลุกขึ้นมาทำความสะอาดพรม งั้นเรามาดูวิธีทำความสะอาดพรมกันเถอะครับ
ดูดฝุ่นพรม
นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลแรก ที่ผมต้องซื้อเครื่องดูดฝุ่นเลยครับ และเครื่องดูดฝุ่นที่คุณจะเลือกซื้อ ผมแนะนำว่าควรมีกำลังดูดแรงๆหน่อยนะ จะได้ดูดฝุ่นขึ้นมาได้เยอะๆ แล้วเวลาดูดฝุ่นที่พรมก็ใช้หัวดูที่มีแปรง จะได้ค่อยกวาดฝุ่นตามซอกพรมขึ้นมาด้วยนะครับ จากประสบการณ์การดูดฝุ่นที่พรมจะทำให้ฝุ่นผง เศษเส้นผม หรือถ้าใครมีสัตว์เลี้ยงขนต่างๆ จะสามารถดูดขึ้นมาได้หมดครับ แนะนำว่าเวลาดูดฝุ่นเพื่อความสะอาดของพรม ปรับเครื่องดูดฝุ่นไปให้เกือบแรงสุด หรือแรงสุดๆเลยครับ (ถ้าพรมที่บ้านคุณกว้างมากๆ แล้วเครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องเล็ก แนะนำว่าเกือบๆสุดพอนะ ไม่งั้นเครื่องดูดฝุ่นจะร้อนไปครับ ของผมพังมาแล้วเพราะร้อนเกิน)
แปรงพรม หรือซักแห้ง
ถ้าการดูดฝุ่นเริ่มเอาไม่ออก เช่น คราบกาแฟหรือคราบซอสที่พอแห้งจะเกาะแน่นเลย แบบนี้ผมแนะนำให้แปรงพรม หรือซักแห้งเลยครับ โดยการใช้น้ำเปล่าผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานแบบจางๆ เน้นนะครับว่า จางๆ เพราะว่าเราจะซักแห้ง ดังนั้นตอนที่ซักเราจะแปรงให้แค่มีน้ำยาไปช่วยดึงคราบออกมา ไม่ได้ใส่ซะจนพรมเปียกนะ
หลังจากนั้น ก็เปิดพัดลมแรงๆ เพื่อเป่าลมให้แห้งเร็วๆ ไม่งั้นจะมีกลิ่นอับชื่นครับ ถ้าอยากให้แห้งเร็วที่สุด สำหรับผมแล้ว หลังจากที่แปรงพรมเสร็จจะดูดฝุ่นครับ เพื่อดูดน้ำบางส่วนขึ้นมา แล้วค่อยเปิดพัดลมทิ้งไว้ แบบนี้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็แห้งแล้วครับ
ซักพรม
อันนี้พรมต้องไม่ใหญ่มากนะครับ แล้วสกปรกสุดๆ แบบทนไม่ได้กันเลยทีเดียว ถ้างั้นก็ต้องซักอย่างเดียวครับ ซักเปียกแบบนี้ลงน้ำยากันให้เต็มที่เลยครับ เพราะนานๆจะซักที แต่ว่าตอนที่จะตากพรมระวังน้ำหนักตอนที่จะยกด้วยนะครับ เพราะว่ามันจะหนักมากๆ อันตรายต่อหลังเหมือนกันนะ ถ้าพรมขนาดใหญ่ ควรมีคนช่วยยกนะครับ
ซักพรมและใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงช่วย
อันนี้ถ้ามันสกปรกจนเราต้องยกมาซักเปียก แล้วที่บ้านคุณมีเครื่องฉีดน้ำอยู่ แบบนี้เอามาฉีดเลยครับ สะอาดแน่ๆ แต่ระวังขนๆจะหลุดออกมาด้วยนะ ถ้าพรมเริ่มเก่าแล้วขนจะหลุดง่ายมาก เดี๋ยวจะหาไม่ว่าเตือน ฮ่าๆๆๆๆ
ดูดฝุ่นพรม
นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลแรก ที่ผมต้องซื้อเครื่องดูดฝุ่นเลยครับ และเครื่องดูดฝุ่นที่คุณจะเลือกซื้อ ผมแนะนำว่าควรมีกำลังดูดแรงๆหน่อยนะ จะได้ดูดฝุ่นขึ้นมาได้เยอะๆ แล้วเวลาดูดฝุ่นที่พรมก็ใช้หัวดูที่มีแปรง จะได้ค่อยกวาดฝุ่นตามซอกพรมขึ้นมาด้วยนะครับ จากประสบการณ์การดูดฝุ่นที่พรมจะทำให้ฝุ่นผง เศษเส้นผม หรือถ้าใครมีสัตว์เลี้ยงขนต่างๆ จะสามารถดูดขึ้นมาได้หมดครับ แนะนำว่าเวลาดูดฝุ่นเพื่อความสะอาดของพรม ปรับเครื่องดูดฝุ่นไปให้เกือบแรงสุด หรือแรงสุดๆเลยครับ (ถ้าพรมที่บ้านคุณกว้างมากๆ แล้วเครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องเล็ก แนะนำว่าเกือบๆสุดพอนะ ไม่งั้นเครื่องดูดฝุ่นจะร้อนไปครับ ของผมพังมาแล้วเพราะร้อนเกิน)
แปรงพรม หรือซักแห้ง
ถ้าการดูดฝุ่นเริ่มเอาไม่ออก เช่น คราบกาแฟหรือคราบซอสที่พอแห้งจะเกาะแน่นเลย แบบนี้ผมแนะนำให้แปรงพรม หรือซักแห้งเลยครับ โดยการใช้น้ำเปล่าผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานแบบจางๆ เน้นนะครับว่า จางๆ เพราะว่าเราจะซักแห้ง ดังนั้นตอนที่ซักเราจะแปรงให้แค่มีน้ำยาไปช่วยดึงคราบออกมา ไม่ได้ใส่ซะจนพรมเปียกนะ
หลังจากนั้น ก็เปิดพัดลมแรงๆ เพื่อเป่าลมให้แห้งเร็วๆ ไม่งั้นจะมีกลิ่นอับชื่นครับ ถ้าอยากให้แห้งเร็วที่สุด สำหรับผมแล้ว หลังจากที่แปรงพรมเสร็จจะดูดฝุ่นครับ เพื่อดูดน้ำบางส่วนขึ้นมา แล้วค่อยเปิดพัดลมทิ้งไว้ แบบนี้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็แห้งแล้วครับ
ซักพรม
อันนี้พรมต้องไม่ใหญ่มากนะครับ แล้วสกปรกสุดๆ แบบทนไม่ได้กันเลยทีเดียว ถ้างั้นก็ต้องซักอย่างเดียวครับ ซักเปียกแบบนี้ลงน้ำยากันให้เต็มที่เลยครับ เพราะนานๆจะซักที แต่ว่าตอนที่จะตากพรมระวังน้ำหนักตอนที่จะยกด้วยนะครับ เพราะว่ามันจะหนักมากๆ อันตรายต่อหลังเหมือนกันนะ ถ้าพรมขนาดใหญ่ ควรมีคนช่วยยกนะครับ
ซักพรมและใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงช่วย
อันนี้ถ้ามันสกปรกจนเราต้องยกมาซักเปียก แล้วที่บ้านคุณมีเครื่องฉีดน้ำอยู่ แบบนี้เอามาฉีดเลยครับ สะอาดแน่ๆ แต่ระวังขนๆจะหลุดออกมาด้วยนะ ถ้าพรมเริ่มเก่าแล้วขนจะหลุดง่ายมาก เดี๋ยวจะหาไม่ว่าเตือน ฮ่าๆๆๆๆ
เรียบเรียงข้อมูลโดย buildsweethome.blogspot.com
สุดท้ายถ้าวิธีการทั้งหมดที่ผมกล่าวไปแล้วนั้น ไม่สามารถขจัดคราบในพรมได้ล่ะก็ มันคงถึงเวลาต้องเปลี่ยนพรมแล้วล่ะครับ และถ้าใครมีวิธีการซักพรมดีๆ มาแนะนำกันได้นะครับ สำหรับประโยชน์อื่นๆเกี่ยวกับพรมดูได้ที่นี้เลยครับ