ตอนนี้เวลาขึ้นไปบนรถไฟฟ้า สิ่งที่เราจะเห็นกันจนชินตาแล้วก็คือ ภาพของผู้คนก้มหน้า ก้มตาจ้องในโทรศัพท์กันเกือบตลอดเวลา แถมบางคนยังไม่เงยหน้าขึ้นมาดูเลยว่า ควรเดินเข้าไปด้านในรถไฟฟ้าแล้ว และสำหรับส่วนน้อยคุณก็สามารถพบเห็นคนไทยกำลังนั่งหลับตา กำหนดลมหายใจเพื่อทำสมาธิแบบอานาปานสติอยู่ โดยเฉพาะชายหนุ่มที่กำลังนั่งเพราะไม่ต้องการสบตาแล้วต้องยืนให้สุภาพสตรีนั่ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
พอเป็นแบบนี้แล้ว ผมก็กลับมาคิดได้ว่าแล้วลูกๆของเราล่ะ จะโตมากลายมาเป็นคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์หรือพวก Tablet ตลอดเวลาไหม? จึงทำให้ผมมานั่งค้นข้อมูลดูว่าจะดูแลลูกอย่างไรได้บ้างครับ แล้วก็ไปเจอข่าวว่าที่ประเทศไต้หวันออกกฏหมายออกมาใหม่ เพื่อให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานในเรื่องระยะเวลาของการเล่นโทรศัพท์มือถือ แถมมีโทษปรับด้วยน่ะครับถ้าหากว่าละเลยหน้าที่นี้ โดยมีโทษสูงสุดที่ 50,000 TWD (ประมาณ 52,000 บาท) อืม...แสดงว่าเรื่องการเล่นมือถือนี้สำคัญกว่าที่ผมคิดน่ะเนี่ย
1. ทำเป็นตัวอย่าง - ถ้าเราอยากให้ลูกไม่เล่นมือถือ สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องประพฤติปฏิบัติด้วย ก็คือ ไม่เล่นมือถือให้ลูกเห็นด้วยครับ เพราะถ้าเราเล่น เด็กเล็กๆก็จะมาขอเล่นด้วย และถ้าเป็นเด็กโตก็จะมีข้ออ้างแล้ว ทีคุณแม่คุณพ่อยังเล่นได้เลย
2. พยายามไม่คุยโทรศัพท์ต่อหน้าลูก - ทีนี้บางคนไม่เล่นโทรศัพท์แต่กลับเป็นโทรคุย โทรเมาส์กับเพื่อน 2 ชั่วโมง!!! แบบนี้ก็ไม่ดีเช่นเดียวกัน เท่าที่ผมไปหาข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือใกล้เด็กเล็ก(ไม่เกิน 9 ขวบ)เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง แม้แต่ที่ประเทศอังกฤษ กับฝรั่งเศสก็มีการรณรงค์ไม่ให้เด็กเล็กใช้มือถือ เพราะอาจจะรับผลกระทบจากคลื่นรังสีได้ เนื่องจากศีรษะและสมองเด็กยังเติบโตไม่เต็มที่
3. โต๊ะรับประทานอาหาร ก็ควรใช้ในการรับประทานอาหาร - สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นเยอะขึ้น ในร้านอาหารคือ คนหนุ่มสาวทานข้าวกัน มือนึงถือช้อน อีกมือถือโทรศัพท์ และนั่งทานข้าวไม่คุยกันครับ ดังนั้นพฤติกรรมดังกล่าวต้องไม่ทำให้เห็นโดยเด็ดขาด เพราะว่าเวลาที่ครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนั้นมีค่ามาก โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานกันตั้งแต่เช้า และกว่าจะกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวก็ดึกแล้ว ดังนั้นเวลาที่อยู่ด้วยกันควรคุยกันมากกว่านั่งเล่นมือถือ
4. หากิจกรรมทำพร้อมลูก - ถ้าให้เด็กอยู่กับมือถือ หรือคอมพิวเตอร์แล้ว เด็กๆก็สามารถนั่งเล่นได้ทั้งวันทั้งคืน ดังนั้นเราควรหากิจกรรมนอกบ้านไปเล่นกับลูก ไม่ว่าจะเป็นไปขี่จักรยาน หรือไปเดินในสวนรถไฟ สวนหลวง ร.๙ หรือถ้าเป็นเด็กเล็กเราก็ควรไปเล่นของเล่นกับลูกๆ
โดย buildsweethome.blogspot.com
เท่าที่ไปอ่านๆมาก็มีวิธีหลักๆประมาณนี้ครับ และถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมาแชร์ความคิดเห็นกันได้เลยครับ ขอบคุณครับ(ที่มาของข่าวครับ The Strait Times / Asia)