เครื่องซักผ้า Electrolux มี error ขึ้น มาดูความหมายกัน
สำหรับส่วนตัวผมเองนั้นก็บอกว่าเป็นเพียงผู้ชำนาญงานทางด้านการยัดผ้าเข้าเครื่องและตากผ้ามาเยอะแล้ว แต่ไม่ได้เป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้า แค่พอจะมีประสบการณ์กันมาเยอะว่า Error Code แต่ละอย่างนั้นแก้ไขอย่างไร ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันเลยว่า Error แต่ละตัวมีความหมายว่าอะไร
E10 - น้ำไม่เข้าเครื่องหรือไม่มีน้ำในถังซัก เหตุผลที่เป็นไปได้ ลืมเปิดก๊อกน้ำเข้าเครื่องซักผ้า, ลืมเปิดปั๊มน้ำที่บ้าน หรือสุดท้ายจริงๆอาจจะเป็นที่ตัวปล่อยน้ำเข้าเครื่องซักผ้าเสีย วิธีแก้ไขก็ให้ไปดูว่าเราเปิดปั๊มน้ำที่บ้านและเปิดก๊อกน้ำหรือยัง
E20 - ไม่มีการระบายน้ำ อันนี้แก้ง่ายๆครับ ไปเปิดฝาทำความสะอาดที่ด้านใต้เครื่องแล้วทำความสะอาดครับ วิธีการทำความสะอาดเพื่อแก้ปัญหา E20 ให้ดูที่นี้ครับ
E40 - ไม่ประตูไม่สนิทครับ ให้กดเข้าไปแรงๆอีกที เอาเป็นว่าเปิดและปิดใหม่หลายๆรอบก็ได้แล้ว ถ้าไม่ได้ อาจจะเกิดมาจากคุณใส่ผ้าในเครื่องซักผ้ามากเกินไปครับ รู้นะว่าขี้เกียจซักหลายๆรอบ ไปเอาผ้าออกบางครับ ฮ่าๆๆๆ
EH0 - อันนี้ไม่ค่อยอยากให้เจอครับ เพราะจะแปลว่ามีปัญหามาจากไฟฟ้าที่บ้าน หรือแหล่งจ่ายไฟ ให้ดูแบบนี้ว่าที่บ้านไฟตกหรือเปล่า ถ้าที่บ้านไม่มีไฟตกเลยก็มีความเป็นไปได้ว่าปลั๊กที่บ้านเสีย ซึ่งผมแนะนำให้หาเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆมาตรวจสอบ ส่วนเหตุผลที่ไม่อยากให้เจอ Error Code ตัวนี้ก็เพราะว่า Electrolux ที่บ้านผม บอร์ดหรือผนังวงจรเสียครับ เซ็งมากๆ
E91 - ให้ลองปิดและเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง เนื่องไม่มีการเชื่อมต่อสัญญาณทางไฟฟ้าระหว่างอุปกรณ์ภายใน แต่ผมว่ายังดีน่ะที่ร้องบอก Error Code ได้ ถ้าไม่ร้องบอกอันนี้เซ็งกว่าครับ
เครื่องซักผ้า Electorlux เงียบ
ไม่ว่าจะเปิดอย่างไร จะเสียบปลั๊กใหม่อีกกี่รอบก็ไม่ติด ขั้นแรกให้ลองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆมาตรวจสอบกับปลั๊กไฟก่อนว่าปลั๊กไฟที่ใช้ได้ไม่เสีย
ถ้าปลั๊กไฟใช้งานแล้วแต่เครื่องซักผ้าเงียบอย่างเดียว ผมเดาว่าแผงวงจรเสียครับ ผมโดนมาแล้ว คุณมีเพื่อนแล้วครับ อาการยอดฮิตเลย เซ็งเนอะ
โทรหา Call Center เลย
ตอนนี้ถ้าทำอะไรไม่ได้แล้ว เราก็ต้องโทรหา Call Center ได้เลยครับ 02-725-9000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทรไปหาพนักงานเลย ทีนี้แนะนำให้สอบถามเรื่องเสียใช้จ่ายให้ดีๆ เพราะถามไปเลยว่าถ้าแผงวงจรรุ่นนี้เสียจะซ่อมกี่บาท เนื่องจากการที่เราให้ช่างของ Electrolux มาที่บ้านก็มีค่าใช้จ่ายแล้ว 800 กว่าบาท มาเฉยๆไม่ซ่อมก็ต้องจ่ายครับ ดังนั้นถ้าเราต้องซ่อมด้วยราคาอาจจบกันที่ 3 - 4 พันได้ ผมโดนมาแล้วครับ สุดท้ายคิดว่าไม่ซ่อมแล้ว ซื้อใหม่ดีกว่า เหอะๆ และระหว่างที่รอเครื่องซักผ้าซ่อมเสร็จหรือเครื่องใหม่มาส่งเราคงต้องไปซักผ้าหรือไปซักผ้าแบบหยดเหรียญกันก่อนเลยครับ
โดย buildsweethome.blogspot.com
สุดท้ายนี้ถ้าเพื่อนๆมีติดปัญหาอะไร แนะนำให้โทรไปที่ Call Center ครับ เพราะเขาจะมีขั้นตอนที่เราอาจจะไม่รู้สำหรับรุ่นนั้นๆ ที่ผมเขียนมาอันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เจอเอง และต้องไปแก้ปัญหาให้ญาติๆครับ แล้วถ้าเพื่อนๆมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมาบอกกันได้เลยครับ ขอให้ท่านโชคดีครับ